จากทั้งหมด 3 ครั้ง หากได้ผล-ส.ค.นี้ ทดสอบกับมนุษย์ ติดใหม่ 3 ไร้อาการ
จากนั้น นายสุวิทย์เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมศูนย์วิจัยฯ และประชุมการดำเนินงานด้านวัคซีนว่า การทดสอบในลิงจะฉีด 3 ครั้ง สำหรับวัคซีนที่ทดลองในลิง ใช้เทคโนโลยีใหม่ของการวิจัยวัคซีน คือใช้สารพันธุกรรมของเชื้อชนิด mRNA โดยครั้งที่ 1 ฉีดวันที่ 23 พ.ค. เวลา 07.39 น. ครั้งที่ 2 นับไปอีก 4 สัปดาห์ ครั้ง 3 นับไปอีก 8 สัปดาห์ โดยหลังการทดสอบในเข็มที่ 2 น่าจะทำให้เห็นผลการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 โดยขั้นตอนการทดสอบในลิง ถือเป็นสัตว์ที่ตอบสนองกับวัคซีนได้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด จะดูเรื่องความปลอดภัย ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนเมื่อได้รับวัคซีนและการตอบสนองคือ สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้จริง ก่อนที่จะทดสอบในมนุษย์ ซึ่งคาดว่าอีก 3-6 เดือนจะเริ่มทดสอบได้
คาด ส.ค.นี้ทดสอบในคน
รมว.การอุดมศึกษาฯ กล่าวอีกว่า สำหรับกระบวนการทดสอบในมนุษย์มี 3 ระยะ โดยพิจารณาใน 4 ประเด็นได้แก่ ความเป็นพิษ ความปลอดภัยต่อร่างกาย การกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และประสิทธิผลของวัคซีน ซึ่งหากข้อมูลการทดสอบในลิงเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าจะเริ่มผลิตวัคซีนเพื่อทดสอบในคน ได้ในประมาณเดือน ส.ค.ปีนี้ โดยเฟสที่ 1 ทดสอบในคนจะเริ่มจากหลักสิบคน เพื่อดูว่าวัคซีนมีความปลอดภัยหรือไม่ จากนั้นเฟสที่ 2 เพิ่มเป็นหลักร้อยคน เพื่อดูว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้จริง และเฟสที่ 3 จะทดสอบในหลักหลายพันคน เพื่อดูว่าใช้ได้กับประชากรจำนวนมาก โดยวัคซีนชนิด mRNA ที่ประเทศไทยใช้ เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มีข้อดีคือสามารถพัฒนาได้เร็ว และใช้ได้ผลโดยการใช้ปริมาณวัคซีนที่ไม่มากนัก
เจรจาจองโรงงานผลิตวัคซีน
นายสุวิทย์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ได้มีการเจรจาและสั่งจองการผลิตวัคซีนกับโรงงานผลิต ซึ่งยุทธศาสตร์วัคซีนโรคโควิดนี้ไม่เพียงแก้ปัญหาสำหรับประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นการแก้ปัญหาโรคระบาดในระดับมนุษยชาติ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายการพัฒนาวัคซีนของไทยคือให้คนไทยมีวัคซีนใช้ในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศชั้นนำทั่วโลก โดยขณะนี้การทดลองวัคซีนส่วนใหญ่ในโลกนี้อยู่ในขั้นตอนที่ไล่เลี่ยกันกับประเทศ ไทยคือ การทดสอบในสัตว์ทดลอง มีเพียง 6-7 แบบที่ทดลองในคนในระยะที่ 1-2 แล้ว เช่น จีน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
คาดพร้อมใช้ได้จริงในอีก 1 ปี
รมว.การอุดมศึกษาฯ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ สิ่งที่เราดำเนินการยังใช้หลายวิธีการพร้อมๆกันโดยดำเนินยุทธศาสตร์ 3 แนวทางคู่ขนานกันคือ 1.การวิจัยและทดลองในประเทศไทย ให้สามารถสร้างวัคซีนใช้เอง เพื่อยืนบนขาของตัวเอง 2.การร่วมมือกับนานาชาติ และ 3.การเตรียมความพร้อมในการผลิตวัคซีนที่ผ่านการทดลองและพิสูจน์ว่าใช้ได้ผล เพื่อให้คนไทยได้ใช้อย่างทั่วถึง เพราะนายกรัฐมนตรีให้นโยบายมาว่า คนไทยต้องมีวัคซีนใช้ในเวลาเดียวกับประเทศชั้นนำอื่นๆ คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะพร้อมภายใน 6-12 เดือน ส่วนเรื่องศูนย์ไพรเมทฯนั้น วางแผนในระยะยาวคือการสร้างอาคารวิจัยวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อทางอากาศ ซึ่งจะทำให้การวิจัยพัฒนาและการทดสอบวัคซีนมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ครอบคลุมโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำ เหมือนอย่างในกรณีโรคโควิด-19
นายกฯหนุนเต็มสูบวิจัยวัคซีน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รายงานการพัฒนาวัคซีนของไทยให้นายกฯรับทราบ ในที่ประชุม ศบค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯให้การสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขเต็มที่ ตนในฐานะประธานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ได้วางนโยบายชัดเจนให้สถาบันวัคซีนฯไปหาความร่วมมือและลงทุนเรื่องการค้นคว้าวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการจัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งให้สถาบันวัคซีนฯไปหาวิธีผลิตวัคซีนให้ได้ ถือว่ามีโอกาส เพราะเรามีความพร้อมในเรื่องของทุน วิชาการและนักวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้อยากให้ทุกคนรีบไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ด้วยในช่วงนี้
พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 3 ราย
อีกด้านที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวรายงานสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทย โดย พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 3,040 ราย ขณะเดียวกันมีผู้ที่รักษาหายเพิ่มอีก 6 ราย รวมรักษาหาย 2,916 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เท่ากับผู้เสียชีวิตในไทยยังอยู่ที่ 56 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลเหลือเพียง 68 ราย
ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
พญ.พรรณประภากล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ จำเเนกเป็นไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย เป็นชาย สัญชาติอิตาลี อายุ 49 ปี อาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต และเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 22 พ.ค. มีประวัติเดินทางไปในสถานที่ชุมชน เเละไม่เเสดงอาการ ส่วนอีก 2 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศเเละเข้าสู่สถานกักกันที่รัฐจัดให้ใน จ.ชลบุรี รายแรกเป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 24 ปี เดินทางกลับจากประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา และวันที่ 9 พ.ค. มีอาการไข้ ไอ เเละท้องเสีย พร้อมเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เเต่ไม่พบเชื้อเเละตรวจหาเชื้อใหม่ครั้งที่ 2 เเล้วพบเชื้อวันที่ 20 พ.ค. อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี อาชีพพนักงานสปา เดินทางกลับจากประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เเละวันที่ 19 พ.ค. มีไข้ ไอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ เเละจมูกไม่ได้กลิ่น จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ และยืนยันพบเชื้อเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ทั้งนี้ สถานการณ์การติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐ ตั้งแต่ ก.พ.-23 พ.ค. พบผู้ป่วย 104 ราย ชายมากกว่าหญิง อัตราป่วยผู้เข้ากักกันร้อยละ 0.43 ประเทศต้นทางที่มีผู้ป่วยติดเชื้อมากที่สุด คือ อินโดนีเซีย ปากีสถาน คาซัคสถาน ส่วนผู้ป่วยตามปัจจัยเสี่ยง 2 สัปดาห์ อันดับ 1 คือ เดินทางจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกัน 17 ราย สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 10 ราย สถานที่ชุมชน 5 ราย อาชีพเสี่ยง 3 ราย และการค้นเชิงรุก 1 ราย
เตรียมพร้อมรับระบาดระลอก 2
ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการ แพทย์ กล่าวถึงนิวนอร์มอล การแพทย์ฉุกเฉิน ว่า ระบบการแพทย์ฉุกเฉินต้องมีการปรับสู่รูปแบบนิวนอร์มอลเช่นกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยต้องมีการคัดกรอง การแต่งกายของแพทย์ พยาบาล ต้องแต่งกายมิดชิดเพิ่มขึ้นจากเดิม การทำหัตถการจะต้องทำในห้องความดันลบ โดยจะลดจำนวนคนลงให้น้อยที่สุด ทั้งจะต้องนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ให้ทุกโรงพยาบาลนำไปใช้ อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในไทยจะลดลงมาก แต่ยังต้องเตรียมความพร้อมของจำนวนเตียง เพื่อรองรับการระบาดในระลอกที่ 2 ส่วนการเปิดให้บริการของโรงพยาบาลนั้น ขณะนี้เปิดให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็น เช่น ต้องผ่าตัด เดินทางมาที่โรงพยาบาลได้แล้ว แต่ยังมีการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาลอยู่เช่นเดิม เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล และหากเป็นผู้ป่วยที่ดูแลตัวเองได้ จะมีการส่งยาทางไปรษณีย์ และพบแพทย์ในช่องทางออนไลน์
WBC มอบรางวัล “แมทธิว-ลีเดีย”
วันเดียวกัน ที่สำนักงานใหญ่ สภามวยแห่ง เอเชีย (WBC Asia) พหลโยธิน ซอย 3 พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลก WBC และ ประธานสภามวยโลก เอเชีย เป็นประธานจัดงาน ในนามตัวแทนมอบรางวัลจากสภามวยโลกให้แก่ แมทธิว ดีน และลีเดีย ศรัณย์รัชต์ สองสามีภรรยาคนดัง และ ผศ.นพ.วิชัย เตชะสาธิต แพทย์ผู้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดย “เสธ.จั๊ก” พ.อ.ธนพล ภักดีภูมิ เลขานุการบริหาร สภามวย เอเชีย เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์งานนี้ ว่า เพราะเล็งเห็นคุณงามความดีของแมทธิว ดีน และลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ในความกล้าหาญที่เปิดเผยอาการติดเชื้อโควิด-19 ของตนเองให้สาธารณชนรับทราบ จนสร้างความตระหนักให้แก่สังคมเป็นวงกว้างในการเฝ้าระวังโรคร้ายนี้ด้วยความ ไม่ประมาท รวมถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของ ผศ.นพ.วิชัย เตชะสาธิต ซึ่งได้ทุ่มเทชีวิตในการรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคโควิด-19 เป็นจำนวนมากมาย จึงได้พิจารณามอบรางวัล “Heroes of Humanity” หรือรางวัล “ฮีโร่ของมวลชน” ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่ทางสภามวยโลก จะมอบให้กับบุคคลซึ่งเป็นแบบอย่างการทำความดีของประเทศต่างๆทั่วโลก โดย น.ส.ณาภิรักษ์ ภักดีภูมิ ประธาน WBC MuayThai Cares ร่วมกันเป็นผู้แทน มร.มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานใหญ่สภามวยโลก มอบรางวัล
“แมทธิว” วอนอย่าโทษวงการมวย
ด้าน แมทธิว กล่าวถึงการได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ขอขอบคุณ WBC และ WBC เอเชีย ที่มอบรางวัลนี้ให้ สิ่งที่ตนทำเชื่อว่าเป็นหน้าที่ที่เป็นห่วงคนรอบข้างและคนที่สัมผัสใกล้ชิดในช่วงนั้น ถึงแม้ตอนนั้นตนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ก็ยังมีความรู้สึกดี ที่คนไทยคนอื่นเมื่อได้ยินเรื่องราวของเราหลังจากติดเชื้อโควิด-19 ก็เริ่มเป็นห่วงตัวเองและคนอื่น พร้อมทั้งยินดีที่จะทำตามกฎที่บุคลากรทางการแพทย์แนะนำ ตนขอชื่นชมคนไทยทุกคนที่มีวินัย และพยายามที่จะทำให้เชื้อโควิด-19 ระบาดน้อยที่สุดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้สังคมโจมตีคนในวงการมวยว่าเป็นเหมือนผู้แพร่เชื้อ เพราะคนในวงการมวยก็ได้รับผลกระทบเหมือนกับผู้คนในทุกวงการ การโทษกันไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ อยากให้มองว่าการติดเชื้อจากสนามมวยในวันนั้นของตนและคนอื่น ยังดีกว่าการติดเชื้อจากที่อื่นๆ เพราะที่อยู่ในนั้นรู้จักกัน สามารถตามตัวได้ จึงไม่อยากให้โจมตีวงการมวยอย่างไม่มีเหตุผล สิ่งที่สำคัญคือเราทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อให้ประเทศของเรารวมถึงทุกวงการฟื้นฟู กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป
ดีใจสุดชีวิตในวันที่ได้กลับบ้าน
พิธีกรหนุ่มแมทธิวยังเล่าอีกว่า ช่วงแรกที่ตรวจพบติดเชื้อ ไม่มีความรู้สึกอยากจะดูอะไร ตนพูดอยู่ตลอดว่าถ้าเราติดโควิด-19 ทำให้คนแม้แต่คนเดียวไม่ตายหรือไม่ติดเชื้อ ก็ดีใจแล้ว ผลหลังจากที่เราได้ประกาศออกไป ก็มีความหวังดี เป็นห่วงคนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เป็นห่วงทุกคนที่เราเจอในตอนนั้น เราไม่อยากให้ใครมาเป็น ต้องขอบคุณกำลังใจจากทุกฝ่ายมากกว่า กำลังใจจากทุกคนที่ส่งมาให้เรา ทั้งที่เคยเจอและไม่เคยเจอกันเลยในชีวิต บางคนส่งข้อความยาวมากมาขอบคุณที่ทำให้เขาระวังมากขึ้น ทำให้บางอย่างในประเทศไทยเปลี่ยนไป รู้สึกดี ซาบซึ้ง กำลังใจทำให้เราสองคนผ่านตรงนี้ไปได้ ทำให้เรามีแรงขึ้นอีกนิดหนึ่งทุกวัน จนสุดท้าย นพ.วิชัยรักษาจนสามารถกลับบ้าน แทบจะเป็นวันที่ดีใจที่สุดในชีวิตเลย
สุดเศร้าฉลองครบรอบวันแต่งใน รพ.
เมื่อถามถึงช่วงที่อยู่โรงพยาบาลและตรงกับวันครบรอบวันแต่งงานด้วย เมื่อวันที่ 16 มี.ค. แมทธิว เล่าว่า เป็นความบังเอิญและเป็นความเศร้าไปในตัวด้วย ครบรอบแต่งงาน 5 ปี ตอนนั้นเราต้องอยู่กันคนละโรงพยาบาล ที่ถามว่าตนร้องไห้บ่อยไหม คงเป็นวันครบรอบแต่งงานตอนดูรูป ดูภาพ วันนั้นเศร้ามากแต่นึกถึงสิ่งดีๆ มองสิ่งต่างๆ แง่บวก ว่าเราห่างกันแค่ครั้งหนึ่งของวันครบรอบแต่งงาน แต่เรายังได้ฉลองด้วยกันอีกหลายปีแน่นอน และหลังจากผ่านเหตุการณ์นี้มาด้วยกัน ทำให้เราผูกพันกันมากขึ้น รักกันมากขึ้น
ปอดเพิ่งฟื้นตัวฟิตใกล้เต็มร้อย
นอกจากนี้ แมทธิวกล่าวถึงสุขภาพในขณะนี้ด้วยว่า อาการตามร่างกายสำหรับเราสองคนตอนนั้นถือว่าลีเดียมีอาการทางปอดหนักกว่า ตนเป็นไข้ แต่ลงปอดน้อยกว่าลีเดีย สภาพปอดปัจจุบันของตน ดีขึ้นเรื่อยๆ กลับมาบ้านออกกำลังกายได้ใช้ระยะเวลาฟื้นฟู ตอนนี้ความฟิตกลับมา 95 เปอร์เซ็นต์ สำหรับลีเดีย ปอดน่าจะสมบูรณ์ได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะตอนออกจากโรงพยาบาล ยังมีอาการนิดหน่อย มันคือการใช้เวลาฟื้นฟูของปอด
ลุ้นทุกวันเมื่อไหร่ไร้เชื้อในตัว
ด้าน ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ กล่าวถึงช่วงเวลาที่ต้องรักษาตัวหลังจากตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จากสามีว่า เป็นช่วงเวลาที่มีหลายอารมณ์มาก ตั้งแต่ช่วงแรก มีความกลัว วิตก เราจะตายมั้ย ลูกจะเป็นอะไรมั้ย คิดถึงลูก ต้องบอกตรงๆว่าบางวันไม่อยากตื่น เพราะตื่นมาแล้วต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแล้วเป็นผู้ป่วยโควิด-19 เราก็รู้สึกว่าอย่างน้อยนอนต่อไปก็ได้ฝันว่าอยู่กับลูกได้ก็ได้ เป็นการสู้ที่ไม่ใช่แค่สู้กับไวรัส แต่สู้กับจิตใจตัวเองด้วยว่าเมื่อไหร่เราจะได้กลับบ้าน เชื้อลงมาในปอดแล้วจะลามอีกมั้ย คุณหมอจะรักษาเราแล้วหายมั้ย มีหลายสิ่งหลายอย่างมากที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน มันทรมาน ในบางวันช่วงแรกๆ เราพยายามเข้มแข็งไว้ ไม่มีร้องไห้ แต่พออยู่ไปนานๆ บางวันก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จะมีร้องไห้ออกมาบ้าง พอถึงวันที่รู้ว่าผลตรวจเป็นลบ มันดีใจมาก เพราะลุ้นทุกครั้งที่ตรวจแล้วเป็นบวกทุกครั้ง จะ 20 หรือ 30 วันก็บวก เมื่อไหร่จะลบสักที ทำให้เรารู้สึกปล่อยวาง ไม่ต้องคาดหวัง พอผลออกมาเป็นลบ ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นลบ เพราะไม่ได้หวังให้มันเป็นลบ เพราะเราเจอบวกมาตลอดและผิดหวังมาตลอด ตลอดเวลาที่รักษาตัวมีเรื่องให้ดีใจ ใจเสีย เสียใจ ทุกอย่างขึ้นๆลงๆ
ตราบใดยังไร้วัคซีนห้ามการ์ดตก
นักร้องคุณแม่ลูกสองยังกล่าวช่วงหนึ่งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ว่า การป่วยครั้งนี้ทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไป หาความสุขในสิ่งเล็กๆได้ ช่วงอยู่โรงพยาบาลแค่กลับมาทานข้าวได้หมดจาน ก็เป็นความสุขเล็กๆ พร้อมระบุว่าส่วนตัวไม่ได้เป็นฮีโร่ และขอบคุณคุณหมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าที่สู้แทนพวกเราทุกคน อยากเตือนทุกคนว่าเรายังดูไม่จบ ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีน อยากให้ทุกคนยังใช้ชีวิตแบบระมัดระวังต่อไป รวมถึงปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับนิวนอร์มอล
ทั้งนี้ แมทธิวและลีเดียได้กล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับคนไทยและชาวโลก ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกข้อความจากประชาชนทุกคน ทุกข้อความมี ความหมายสำหรับพวกตนมาก และฝากให้คนไทยยังต้องระมัดระวัง ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอแบบตน อยากให้เว้นระยะห่าง ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ และใส่แมสก์กันต่อไป อย่าชะล่าใจ การ์ดอย่าตก ปรับชีวิตให้เข้ากับ New Normal หวังว่าประเทศไทยเราจะกำจัดโควิด-19 ไปได้โดยเร็วที่สุด
มั่นใจติดเชื้อไม่มากเพราะมีวินัย
ด้าน ผศ.นพ.วิชัย เตชะสาธิต แสดงความคิดเห็น ถึงการจะเปิดสนามมวยในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ด้วย ว่าภาพรวมสิ่งที่รัฐบาลดูแลมาตลอดคือการค่อยๆดำเนินการปลดล็อกทีละสเต็ป โดยจะมีการคลายล็อกสเต็ปที่ 3 ซึ่งต้องดูกันต่อไป ประเมินผลว่ามาตรการที่ต้องปฏิบัติได้ผลมากน้อยเพียงใด อย่างที่แมทธิวและลีเดียพูดว่าเราทุกคนยังต้องมีวินัย และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด จนกว่าจะมีวัคซีนที่สามารถรักษาโควิด-19 ได้จริงๆ ตนคิดว่าที่เรามีอัตราการเสียชีวิตน้อยมากๆ เพราะโรงพยาบาลรับไหว เนื่องจากมาตรการต่างๆ ใช้ได้ผล ทำให้มีผู้ติดเชื้อไม่ได้มีจำนวนมากแต่ถ้าเกิดว่ามีจำนวนมากจนโรงพยาบาลรับไม่ไหว ก็ไม่สามารถประเมินได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยังต้องขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการของทางรัฐบาลอยู่
แรงงานพม่าแห่กลับบ้าน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก วันเดียวกัน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผวจ.ตาก และคณะมาอำนวยความสะดวกในการเปิดด่านเพื่อส่งกลับแรงงานพม่าที่ลงทะเบียนกับสถานทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย กลับภูมิลำเนา หลังที่ทำงานปิดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยรถบัส 10 คัน บรรทุกแรงงานพม่ารวม 210 คน เดินทางออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 มาถึงตอนเช้าตรู่ ขณะที่แรงงานพม่าราว 100 คน ที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับสถานทูตมารอด่านเปิดตั้งแต่เช้ามืดเช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจคัดกรองไม่พบเชื้อปล่อยให้ผ่านด่านได้ โดยเจ้าหน้าที่พม่าได้นำรถบัสมารับถึงเชิงสะพาน โดยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผวจ.ตาก กล่าวว่าวันนี้เป็นวันแรกเปิดด่านให้แรงงานพม่าเดินทางกลับประเทศ มีแรงงานพม่าลงทะเบียนเดินทางผ่านด่านแห่งนี้ราว 10,000 คน จากที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมดกว่า 27,000 คน โดยจะเปิดด่านจนถึงวันที่ 10 มิ.ย.นี้
คนไทยเข้าประเทศอีกเพียบ
ส่วนที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังคงมีเที่ยวบินพิเศษนำคนไทยในต่างแดน อพยพหนีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์มรณะจากทั่วทุกมุมโลก กลับสู่มาตุภูมิ โดยเวลา 01.30 น. วันที่ 23 พ.ค. สายการบินลุฟท์ฮันซา เที่ยวบินที่ LH772 นำคนไทยที่ตกค้างในเยอรมนี จำนวน 71 คน ในจำนวนนี้ เป็นพระภิกษุ 2 รูป พร้อมนักการทูตชาว เยอรมัน 7 คน ออกจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต กลับมายังประเทศไทย โดยหลังจากผ่านการตรวจคัดกรอง พบผู้โดยสารมีไข้ 2 คน ส่วนที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 14.15 น. สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL2225 นำคนไทยที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศบังกลาเทศ จำนวน 158 คน เดินทางกลับประเทศ โดยทั้งหมดหลังผ่านการคัดกรองโรคไม่พบผู้ใดมีไข้ จากนั้นเวลา 17.15 น. สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL117 นำคนไทยที่ตกค้างในประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 165 คน ในจำนวนนี้เป็นพระภิกษุ 2 รูป กลับถึงไทย ซึ่งทั้งหมดไม่พบมีไข้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวเข้าสู่การกักตัวในสถานที่กักที่รัฐเตรียมไว้ทั้งใน กทม. สมุทรปราการ และชลบุรี
ยามาลาเรียรักษาโควิด–19 ไม่ได้
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ว่า สืบเนื่องจากกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แนะนำให้ใช้ยาต้านมาลาเรีย ไฮดรอกซีคลอโรควิน รักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 พร้อมย้ำว่าตัวเองรับประทานยาทุกวันนั้น ศูนย์การแพทย์สตรีบริกแฮมในนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ สหรัฐฯ ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยผ่านวารสารการแพทย์แลนเซต ยืนยันว่าจากการทดสอบยากับผู้ป่วย
โควิด-19 จำนวน 96,000 คน ในโรงพยาบาลทั่วสหรัฐฯหลายร้อยแห่ง ไม่ปรากฏผลลัพธ์ในแง่ดีแต่อย่างไร ซ้ำยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนทางหัวใจเช่นกัน
ใช้แล้วมีโอกาสตายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ แพทย์หญิงมานดีพ เมห์รา หัวหน้าทีมวิจัยยังเปิดเผยด้วยว่า การศึกษาครั้งนี้แพทย์ได้แบ่งผู้ป่วยเป็น 5 กลุ่มคือกลุ่มแรกใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควิน กลุ่มที่สองใช้ยามาลาเรียคลอโรควิน กลุ่มที่สามใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินผสมกับยาปฏิชีวนะ กลุ่มที่สี่ใช้ยาคลอโรควินผสมกับยาปฏิชีวนะ และกลุ่มที่ห้าไม่ใช้ยา ซึ่งผลคือกลุ่มแรกมีอัตราการเสียชีวิต 18 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่สองมีอัตราเสียชีวิต 16.4 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่สามมีอัตราเสียชีวิต 22.8 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มที่สี่มีอัตราเสียชีวิต 23.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มที่ห้าไม่ได้รับยาอะไร มีอัตราเสียชีวิต 9 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่า การใช้ยาต้านมาลาเรียกับผู้ป่วยโควิด-19 กลับกลายเป็นเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากขึ้น
รัฐนิวยอร์กผ่อนคลายรวมตัว
สำหรับความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สหรัฐอเมริกา วันเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 1.64 ล้านคน เสียชีวิตเพิ่มเป็น 97,655 คน หลังตรวจพบผู้เสียชีวิตในวันเดียว 1,260 คน ด้านนายแอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก จุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ ประกาศผ่อนคลายมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาด ของไวรัส อนุญาตให้ประชาชนรวมตัวในพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ส่วนตัวสูงสุด 10 คน แต่ต้องรักษามาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด และสวมหน้ากาก อนามัย ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐนิวยอร์ก เหลือประมาณ 5,000 คน และพบผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่ 109 คน
ทรัมป์ขู่ผู้ว่าฯห้ามปิดศาสนสถาน
เช่นเดียวกับ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่ผ่อนคลายมาตรการ อนุญาตให้ประชาชนรวมตัวในที่สาธารณะสูงสุด 25 คน และรวมตัวในพื้นที่ส่วนตัวสูงสุด 10 คน ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ข่มขู่ผู้ว่าการรัฐต่างๆให้เปิดโบสถ์และมัสยิดตามปกติ เพราะถือเป็นสถานที่จำเป็น และชาวอเมริกันต้องได้รับโอกาสที่จะสวดภาวนาเพิ่มขึ้น หากใครไม่ปฏิบัติตาม จะใช้อำนาจบังคับ ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า นายทรัมป์ไม่มีอำนาจบังคับผู้ว่าการรัฐ แต่สามารถตัดงบสนับสนุนรัฐได้
บราซิล–รัสเซียติดเชื้อพุ่งไล่เลี่ย
ด้านสำนักข่าวบีบีซีอังกฤษรายงานว่า ประเทศบราซิลที่ถือเป็นจุดศูนย์กลางแพร่ระบาดหลักในภูมิภาคอเมริกาใต้ ได้กลายเป็นประเทศมีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแทนที่รัสเซีย ในช่วงคืนวันที่ 22 พ.ค. หลังยอดผู้ติดเชื้อรวมพุ่งเป็น 332,382 คน เสียชีวิตมากกว่า 21,000 คน อย่างไรก็ตาม ต่อมาในวันที่ 23 พ.ค. รัฐบาลรัสเซียได้แถลงการณ์ปรับยอดผู้ติดเชื้อรวมในประเทศเป็น 335,882 คน เสียชีวิตมากกว่า 3,400 คน แซงหน้าบราซิลกลับมารั้งตำแหน่งดังเดิม
ฝรั่งเศสสั่งเปิดโบสถ์แล้ว
ที่ฝรั่งเศส กระทรวงมหาดไทย ประกาศอนุญาตให้ประชาชนปฏิบัติศาสนกิจตามสถานที่ทางศาสนาต่างๆได้ ตั้งแต่ 23 พ.ค.เป็นต้นไป แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการปิดศาสนสถานเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานด้วยว่า รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองไปตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. แต่ยังสั่งห้ามเปิดศาสนสถาน จนทำให้ถูกกดดันอย่างหนักจากกลุ่มทางศาสนาต่างๆ นอกจากนี้ การที่รัฐบาลสั่งเปิดศาสนสถานยังมีขึ้นพร้อมกับกรณีนายทรัมป์กดดันผู้ว่าการรัฐให้เปิดโบสถ์และมัสยิดด้วย
จีนติดเชื้อเป็นศูนย์ครั้งแรก
สำหรับบรรยากาศในภูมิภาคเอเชีย คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมง ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 ระบาดและมีต้นตอที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่รักษาตัวจากการติดเชื้อไวรัสมรณะเหลือเพียง 79 คน มีผู้ถูกกักกันและถูกเฝ้าระวังเพราะต้องสงสัยหรือถูกตรวจพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ อีก 376 คน ส่วนผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 82,971 คน ผู้เสียชีวิตรวม 4,634 คน
กรุงโซลยังน่าเป็นห่วง
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติเกาหลีใต้ (KCDC) รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซล ซึ่งเจ้าหน้าที่สั่งปิดสถานบันเทิง ทั้งไนต์คลับ บาร์และคาราโอเกะนับพันแห่ง เพื่อควบคุมการระบาด หลังมีการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดแล้วมีผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอิแทวอนในกรุงโซล ติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 จนนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเกี่ยวข้องกรณีดังกล่าวมากกว่า 200 คน ทำให้ทั่วประเทศเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 11,165 คน ผู้เสียชีวิตรวม 266 คน
ออกคู่มือ พนง.บาร์ญี่ปุ่น
ด้านประเทศญี่ปุ่น ที่เพิ่งยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินและคำร้องขอให้อยู่ที่บ้านในหลายส่วนของประเทศแต่ไม่ยกเลิกที่กรุงโตเกียวนั้น ทางสมาคมพนักงานไนต์คลับและโฮสต์ บาร์ ออกคู่มือการทำงานช่วงการระบาดของไวรัสมรณะ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย พ่นยาฆ่าเชื้อลูกบิดประตูและโต๊ะทุก 30 นาที พนักงานควรล้างมือและบ้วนปากทุก 30 นาที ลูกค้านั่งกับพนักงานได้แต่ต้องมีเก้าอี้กั้นเว้นระยะห่างจากกัน ส่วนผู้ติดเชื้อรวมในญี่ปุ่นอยู่ที่ 16,513 คน ผู้เสียชีวิต 796 คน
อาเซียนยอดขยับต่อเนื่อง
ที่สิงคโปร์ กระทรวงสาธารณสุขรายงาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 642 คน ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 31,068 คน ผู้เสียชีวิต 23 คน ที่มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 48 คน ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 7,185 คน ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 115 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ ส่วนที่ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 180 คน ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 13,777 คน ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6 คน ยอดผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มเป็น 863 คน ขณะที่อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรวม 20,796 คน ผู้เสียชีวิต 1,326 คน
"พิชิต" - Google News
May 24, 2020 at 05:30AM
https://ift.tt/3cYfmzp
ไทยเจ๋งทดลองวัคซีน พิชิตโควิด ฉีดให้ลิงเข็มแรก (คลิป) - ไทยรัฐ
"พิชิต" - Google News
https://ift.tt/2TwDilR
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3d22Xu4
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ไทยเจ๋งทดลองวัคซีน พิชิตโควิด ฉีดให้ลิงเข็มแรก (คลิป) - ไทยรัฐ"
Post a Comment