Search

คอลัมน์การเมือง - เจ๊งรอบสองจะหนักกว่าระบาดรอบสอง! - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

refe.prelol.com

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยอยู่ในระยะที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างยอดเยี่ยมของโลก และสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ทัดเทียมกับประเทศในแนวหน้าของโลก เพราะมีผู้ป่วยเหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้ว และความจริงก็น่าจะรักษาได้หมดไปตั้งนานแล้ว

แต่ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้กำลังเกิดการสร้างกระแสลวงโลกกันอย่างกว้างขวาง ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ให้คนทั้งหลายเข้าใจว่าโควิด-19 จะระบาดเป็นรอบที่สองและรอบที่สาม ซึ่งจะก่อให้เกิดวิกฤติใหญ่หลวงมากกว่าเดิม


การปั่นกระแสเช่นว่านี้ยังไม่มีหลักฐานความเป็นจริง ไม่ว่าในประเทศจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน หรืออิตาลี และประเทศอื่นๆ เพราะการเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยนั้นก็เป็นปกติของการตรวจสอบพบ โดยเฉพาะในจีนที่โหมกระแสกันหนักหน่วงนั้นก็ปรากฏแต่เพียงว่าเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากการที่นักเรียนจีนในต่างประเทศทยอยกันเดินทางกลับประเทศหลายแสนคน จึงทำให้มีผู้ป่วยจากกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ใช่การระบาดรอบที่สองและรอบที่สาม

เมื่อประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ผลแล้ว ก็ได้เริ่มดำเนินการปลดล็อกในลักษณะที่สวนทางกับประเทศต่างๆ ที่เขาประสบความสำเร็จมาแล้ว

ประเทศที่เขาประสบความสำเร็จในการปลดล็อกrestart ประเทศนั้นจะปลดล็อกให้ทุกกิจการดำเนินงานได้ตามปกติในพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศ โดยยังคงมีมาตรการควบคุมเฉพาะบางกิจการที่มีความเสี่ยงสูงอีกระยะสั้นๆ เท่านั้น ส่วนพื้นที่ที่ยังมีการระบาดหรือมีผู้ป่วยในระดับตำบลหรืออำเภอยังคงใช้มาตรการปิดกั้นกักตรวจ

โดยใช้กฎหมายการแพร่ระบาดธรรมดา ซึ่งทำให้เหลือพื้นที่น้อยมาก และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจน้อยมาก แม้กระนั้นก็อนุญาตให้กิจการใดๆ ก็ตามที่ไม่มีความเสี่ยงเปิดดำเนินงานได้ตามปกติ

แต่ประเทศไทยของเรากลับใช้วิธีที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าประเทศใดๆ เพราะในขณะที่บอกว่าปลดล็อกrestart ประเทศไทยนั้นแท้จริงก็ยังล็อกกิจการทั่วประเทศอยู่เหมือนเดิม คงออกแต่มาตรการผ่อนปรนบางกิจการ ซึ่งในจำนวนนับหมื่นแสนกิจการในประเทศไทยก็ได้ออกมาตรการผ่อนปรนวันละ 5-8 กิจการ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อใดจะออกมาตรการได้ครบถ้วนทุกกิจการ และไปสงเคราะห์กิจการเหล่านี้ไว้ในกิจการอื่นๆ ซึ่งมิได้ปลดล็อก

สำหรับกิจการที่เรียกว่าปลดล็อกนั้นก็ออกมาตรการที่ประหลาดพิสดารแบบลักปิดลักเปิด โดยเฉพาะมาตรการในการเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร ซึ่งกลับกลายเป็นการทำร้ายและทำลายกิจการให้มีผลขาดทุนมากขึ้น ซ้ำเติมผู้ประกอบการให้ขาดทุนจนถึงขั้นต้องปิดกิจการรอบสอง และเสียหายหนักจนไม่มีทางเยียวยาได้อีก

ยกตัวอย่างร้านค้า ร้านอาหาร ที่ปกติสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้ระดับ 60 คน แต่ด้วยมาตรการดังกล่าวจะสามารถรับลูกค้าได้เพียง 5-6 คนเท่านั้น ทำให้ไม่คุ้มกับการลงทุน เมื่อกู้ยืมเงินมาลงทุนใหม่ก็ขาดทุนจนหมดเกลี้ยง เกิดภาระหนี้สินเพิ่มเติมและต้องปิดกิจการต่อไปอีก

หรือแม้ผู้ประกอบการตลาดสดแผงลอยต่างๆ ครั้นปลดล็อกก็มีความยินดีกัน แล้วไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนเปิดกิจการใหม่ แต่เพราะมาตรการดังกล่าวทำให้สามารถรับลูกค้าได้เพียง 15-20% เท่านั้น สิ่งของและสินค้าที่เตรียมไว้ก็ขายไม่ได้ ต้องขาดทุนและต้องปิดกิจการรอบที่สองจนหมดทางเยียวยาแก้ไข

หรือแม้ในภาคบริการขนส่ง ดังเช่นรถบัสที่สามารถรับผู้โดยสารได้ถึง 50-60 คน ครั้นปลดล็อกก็ยินดีปรีดา แต่พอเอาเข้าจริงด้วยมาตรการดังกล่าวจะรับผู้โดยสารได้เพียง 5-8 คนเท่านั้น ไม่คุ้มกับค่าน้ำมันและค่าคนรถและคนขับ จนต้องขาดทุนยับเยินและไม่สามารถวิ่งรถได้

เจ้าหนี้ก็มาทวงถามไม่เว้นแต่ละวัน กิจการก็ทำไม่ได้ ทั้งขาดทุนและไม่มีรายได้ ไม่มีเงินใช้ สภาพความอดอยากยากจนกำลังเกิดขึ้นและขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง

การออกมาตรการที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงโดยไม่เข้าใจถึงต้นทุน และความเป็นจริงของการใช้บริการต่างๆ กำลังทำให้เกิดสภาพเจ๊งรอบที่สอง และกำลังขยายตัวไปอย่างกว้างขวางโดยที่ไม่มีใครให้ความสนใจไยดีอีก ผู้ประกอบการที่เจ๊งรอบสองนี้กำลังมากขึ้นทุกวัน ความเดือดร้อนเสียหายกำลังแผ่ขยายเป็นวงกว้าง เพราะได้ซ้ำเติมผลขาดทุนและความเดือดร้อนเสียหายจากมาตรการควบคุมปิดกิจการก่อนหน้านี้หลายเท่า

สภาพเช่นนี้เป็นอันตรายและทำให้เกิดความเสี่ยงภัยในด้านความมั่นคงของประเทศ เพราะคนเหล่านั้นกำลังสิ้นเนื้อประดาตัว หมดหนทางที่จะฟื้นฟูกิจการ ในขณะที่ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ และกำลังไม่มีกิน ซึ่งถึงวันหนึ่งก็จะหมดสิ้นซึ่งความกลัวใดๆ และจะบังเกิดความกล้าที่จะทำการทุกอย่าง แม้กระทั่งการฆ่าตัวตาย

เป็นอันตรายยิ่งกว่าการระบาดรอบที่สอง ซึ่งเป็นเพียงกระแสลวงโลกเท่านั้น และในความเป็นจริงขณะนี้ชาวโลกตื่นรู้มากขึ้นแล้วว่าโควิด-19 นั้นก็ไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าไข้หวัดใหญ่ และไม่มีวันที่จะหายไปจากโลกเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ มันยังจะหวนกลับมาอีก

แต่ทว่าโควิด-19 สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งยาสมุนไพรไทยนานาชนิด และยังสามารถรักษาให้หายได้โดยการใช้พลาสมา ดังนั้นประเทศที่เขาปลดล็อก restart จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ตกใจกันอีกต่อไป เพราะผู้ป่วยมาแล้วก็จะมีภูมิต้านทานที่จะไม่ติดเชื้ออีก เว้นแต่โรคจะยังไม่หาย ส่วนผู้ที่ไม่เคยป่วย หากป่วยก็สามารถไปซื้อยามารักษาตนเองที่บ้านเช่นเดียวกับการซื้อยามารักษาไข้หวัดใหญ่

และชาวโลกก็ได้ตื่นรู้ว่าการที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้นเป็นเพราะการไม่ยอมให้การรักษา หรือให้การรักษาช้า จนล่วงถึงวันที่ 45 ไปแล้ว ไวรัสก็จะกินปอดทำให้หายใจไม่ได้และเสียชีวิต

ตื่นเถิดเราทั้งหลาย อย่าให้กระแสลวงโลกมาทำให้บ้านเมืองพินาศวายวอดยิ่งไปกว่านี้เลย ที่สำคัญ อย่าให้การเจ๊งรอบสองขยายตัวไปมากกว่านี้ มิฉะนั้นจะถึงจุดหนึ่งที่เอาไม่หยุดฉุดไม่อยู่!

Let's block ads! (Why?)



"สอง" - Google News
May 26, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2TDdCny

คอลัมน์การเมือง - เจ๊งรอบสองจะหนักกว่าระบาดรอบสอง! - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"สอง" - Google News
https://ift.tt/3cPqHBD
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3d22Xu4

Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์การเมือง - เจ๊งรอบสองจะหนักกว่าระบาดรอบสอง! - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.